กระทรวงพลังงาน ผนึกกำลัง TSAST, CCPIT และ CAS-ICCB จัดงาน “2023 Green Technology Expo”
กระทรวงพลังงาน ผนึกกำลัง TSAST, CCPIT และ CAS-ICCB จัดงาน “2023 Green Technology Expo”
กระทรวงพลังงาน ผนึกกำลัง สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST), CCPIT และ CAS-ICCB จัดงาน “2023 Green Technology Expo” เดินหน้ากำหนดแผนลดการปล่อย GHG พร้อมหนุนประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และส่งมอบโลกให้คนรุ่นใหม่
กระทรวงพลังงาน, สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน (TSAST), Council for the Promotion of International Trade Shanghai (CCPIT) และ Chinese Academy of Sciences, Innovation Cooperation Center Bangkok (CAS-ICCB) ในฐานะผู้สนุบสนุน ร่วมกันประกาศจัดงาน “2023 Green Technology Expo” ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) โดยงาน 2023 Green Technology Expo สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติด้าน Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) และยุทธศาสตร์ชาติและความคิดริเริ่ม “Belt and Road Initiative” ของจีนเพื่อการสร้างคำนิยามที่ว่า “จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน” หวังว่าการปฏิบัติจริงในรูปแบบหลายมิติ เช่น นิทรรศการ การแลกเปลี่ยน และการสร้างปฏิสัมพันธ์จะส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และดำเนินการตามวาระปี 2030 ของสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และสนับสนุนประเทศไทยในการพัฒนาศูนย์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวหลัก ส่งมอบโลกที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นใหม่
งาน 2023 Green Technology Expo ใช้เทคโนโลยีสีเขียวเป็นแกนหลัก เพื่อมุ่งเน้นไปที่การปล่อยคาร์บอนสูงสุดของโลก และวิสัยทัศน์ในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน การปฏิบัติตามนโยบายของสหประชาชาติและข้อกำหนดชี้นำของประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดแสดงและการแบ่งปันเทคโนโลยีสีเขียวจะตอบโจทย์ความท้าทายที่มนุษย์และทุกชีวิตต้องเผชิญเพื่อตอบสนองต่อปัญหาหลักของภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นใหม่
ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมโดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรมมีผลต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่เมือง และลดพื้นที่ป่า สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เกิดการสะสม Green House Gas (GHG) เกินกว่าที่ธรรมชาติจะรับได้ จนเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน หรือ Global Warming ย้อนกลับมามีผลกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ภาคบริการ และการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างที่ทุกคนรับทราบ และเผชิญปัญหาร่วมกัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข
สำหรับประเทศไทย ได้ร่วมให้สัตยาบัน ในการประชุมนานาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก กรุงปารีส ที่จะร่วมลด GHG ให้ได้ร้อยละ 20-25 ในปี2573 เพื่อเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และมีนโยบายส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าด้วยมาตรการทางภาษี ทั้งผู้ผลิต และผู้ใช้ เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
กระทรวงพลังงานมีแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก โดยกำหนดจะลดปริมาณ CO2 ในการผลิตกระแสไฟฟ้า 1 หน่วย ให้เหลือครึ่งหนึ่ง ในปี 2580 และการจัดงาน “2023 Green Technology Expo” ครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่จำเป็นในศตวรรษหน้า
ดร. พิชัย สนแจ้ง เลขาธิการสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทย-จีน กล่าวว่า สมาคมเห็นว่าการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนการผลิตและกระบวนการทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และบริการ ซึ่งต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรม การจัด “2023 Green Technology Expo” ครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการกระจาย การใช้ การพัฒนาเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรม โดยเป็นพื้นที่ให้เกิดการพบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างเจ้าของเทคโนโลยี นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้สนใจทั่วไป ที่จะร่วมกันเสนอเทคโนโลยี และความคิดใหม่ ต่อยอดความรู้ แก้ปัญหา และสนองความต้องการ ซึ่งจะเกิดทั้งBusiness Matching และ Technology Matching สร้างธุรกิจที่สนองนโยบาย SDG และ BCG-Economic ของ UN และนโยบายของประเทศ
Ms. Zhu Lei รองผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการของ Council for the Promotion of International Trade Shanghai (CCPIT) และผู้จัดการทั่วไปของ Shanghai Pudong International Exhibition Co., Ltd. ได้รับความไว้วางใจจาก CCPIT Shanghai ให้กล่าวสุนทรพจน์ในนามของ CCPIT Shanghai
Ms. Zhu Lei กล่าวว่าในฐานะเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีนและเป็นศูนย์กลางในการเปิดสู่โลกภายนอก เซี่ยงไฮ้มีบทบาทสำคัญในความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-ไทย สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้ก่อตั้งขึ้นในปี 2499 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระหว่างเซี่ยงไฮ้กับประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ ในโลก โดยมีการจัดตั้งเวทีระหว่างประเทศมากมาย สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเซี่ยงไฮ้จะอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีในด้านการจัดนิทรรศการประกอบกับประสบการณ์การพัฒนาประเทศและความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีสีเขียว ให้ความร่วมมืออย่างจริงใจกับสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-จีน เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน “2023 Green Technology Expo” ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ดึงดูดผู้ประกอบการจีนให้เข้ามาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
Dr.Jiang Biao ผู้อำนวยการ CAS-ICCB และ นักวิชาการของ International Eurasian Academy of Sciences กล่าวว่า CAS-ICCB ขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทย โดยยึดหลัก mutual benefit และ sincerity สำหรับความร่วมมือในการจัด 2023 Green Technology Expo ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต กระจายเทคโนโลยีและการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา หรือร่วมปกป้อง ป้องกันวิกฤตและส่งต่อโลกที่สวยงามและยั่งยืนสู่คนรุ่นต่อ ๆ ไป ควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจ
Mr.Yang Ming, TusPark WHA Representative รองประธานอาวุโสของ Tus-Holding Co., Ltd, รองประธาน Tus-S&T Service Co., Ltd. ได้กล่าวว่า Tus-Holding เป็นกลุ่มบริษัทร่วมลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีศูนย์บ่มเพาะและอุทยานวิทยาศาสตร์ในเมืองใหญ่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หน่วยงานวิจัย และกลุ่มบริษัท WHA และเน้นย้ำหนทางเดียวที่จะเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวกับ Green Technology, Environment Protection, New Energy และอื่น ๆ ไม่ใช่เพื่อประเทศใด แต่เพื่อมนุษยชาติ
2023 Green Technology Expo เป็นงานจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความสำคัญต่อโลกในอนาคต ภายใต้แนวคิด “Towards the Transition to Newer, Cleaner, Sustained ever Green Technology” โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EV Mobility, Storage & Charger & Component, Green Energy และ Green Tech & Green Product การจัดการน้ำ มลพิษทางอากาศ การจัดการของเสีย เป็นต้น ซึ่งนอกจากการจัดแสดงเทคโนโลยีภายในงานแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การบริการให้คําปรึกษาด้าน Green Energy ทั้งในระดับอุตสาหกรรมและครัวเรือน การเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับ Green Technology นโยบายและการส่งเสริมจากภาครัฐ รวมถึงการเจรจาธุรกิจและความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยี โดยงานกำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 9 – 12 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) Hall 98-99
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวการจัดงาน 2023 Green Technology Expo นี้ ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ และ Council for the Promotion of International Trade Shanghai (CCPIT) และ TusPark WHA เพื่อสนับสนุนและวางรากฐานที่มั่นคงในการจัดงานโดยจัดหาเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการจีนเพื่อนำมาจัดแสดงในงาน
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน พร้อมติดตามข้อมูลและข่าวสารของงาน 2023 Green Technology Expo เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.greentechnology-expo.com หรือที่เพจเฟซบุ๊ก Green Technology Expo